วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันปีใหม่ของพวกเรา 4/2


วันนี้เปงวันที่สนุกมากๆเลยล่ะ ~_~ เพื่อนๆได้มาทำกิจกรรมร่วมกันทั้งเล่นเกมเฉลยบั้ดดี้แล้วก้อได้เล่นลูกโป่งน้ำกันด้วย(รู้สึกว่าอันนี้จามะได้เล่นน้า แต่ทำไมมันเปียกหว่า??) อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้จังเลย

ขอบคุงน้าเพื่อนๆ เราสัญญาว่าเราจาไม่ทำให้เพื่อนผิดหวัง จะทำให้ดีที่สุด 55+

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Merry คริสต์มาส


วันนี้เมื่อตอนเป็นเด็กๆจำได้ว่า ซานตาครอสจาเอาของขวัญมาให้ที่ปลายเตียงด้วยล่ะ..ตื่นเต้นๆแต่ที่ไหนได้ซานตาครอสที่เราเข้าใจทีแท้ก้อคืแคงแม่คุงแม่นี่เอง55+ ก้อใครจารักเราเท่ากับท่านไม่มีอีกแล้ว..รู้เช่นนี้แล้วต้องตั้งใจเรียนหนังสือล่ะ สู้สู้เพื่อนๆ เราจะยึดคติที่ว่า...<รัยหว่า>

การเรียนแม้เหนื่อยยาก ยอมลำบากอย่าท้อถอย

สุดทางที่รอคอย คืออนาคตอันงดงาม

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Chrismas ที่รอคอย


วันที่ 25 ธันวาคมเปงวันคริสต์มาสเรามารู้ประวัติของวันคริสต์มาสกันเร้ย

คริสต์มาสคือ การฉลองการบังเกิดของพระเยซูที่เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม คำว่า "คริสต์มาส" เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas มาจากคำภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" คำว่า "Christes Maesse" พบครั้งแรกในเอกสารโบราณเป็นภาษาอังกฤษในปี 1038 และคำนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ในภาษาไทย "คริสต์มาส" ก็มีความหมายเช่นกัน คำว่า "มาส" แปลว่า "เดือน"เทศกาลคริสต์มาสจึง เป็นเดือนที่เราระลึกถึงพระเยซูคริสต์เจ้าเป็นพิเศษ คำว่า"มาส" คือ"ดวงจันทร์" ตีความหมายในภาษาไทยคือพระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลกเหมือนดวงจันทร์ เป็นความสว่างในตอนกลางคืน Merry X'mas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า"สันติสุขและความสงบทางใจ" คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่นขอให้เขาได้รับสันติสุขและความสงบทางใจ ถือเอาประเพณีของชนในท้องถิ่นนั้น มาประยุกต์เข้ากับศาสนา โดยจัดให้มีการฉลองเพื่อระลึก ถึงการบังเกิดของพระเยซูที่เขายกย่องเหมือนกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสากลโลก ผู้ทรงเกียรติเลอเลิศประเพณี นี้ได้เริ่มมาจากรุงโรมในศตวรรษ ที่ 4 และ ค่อยๆ เผยแพร่ไปทุกทวีป ประวัติ....ซานตาคลอสวันคริสต์มาสนี้เริ่มตั้งแต่คริสตวรรษที่4 มีนักบุญคนหนึ่งชื่อ "นิโคลาส " หรือ "เซนต์นิโคลาส" ท่านเป็นนักบุญ ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเด็กหนุ่มก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสังฆราชแห่งแคว้นไมรา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีท่านได้กลายเป็นนักบุญอุปถัมถ์ประจำชีวิตเด็ก เด็กในประเทศอังกฤษ จะเรียกคุณตาใจดีว่า "คุณพ่อแห่งวันคริสต์มาส" ( Father Christmas ) เด็กเยอรมันนีเรียกว่า "ญาติแห่งพระคริสต์ " ( Christ Child ) เด็กชาวดัชท์เรียกว่า "ซาน นิโคลาส" หรือ "Sankt Klous"ในที่สุดกลายเป็น "ซานตาคลอส" ติดปากเด็กๆทั่วโลก ในปี ค.ศ. 1866 นักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อ โธมัส แนส เป็นคนแรกที่วาดภาพของซานตาคลอสขึ้นมาลักษณะเหมือนที่เรา เห็นทุกวันนี้ ลงพิมพ์ในหนังสือ "Horpers Weekly"เป็นครั้งแรกใบหน้าของซานตาคลอสเป็นสีแดงอมชมพูเหมือนกลีบกุหลาบ จมูกแดงเหมือนผลเชอรี่สุก นัยน์ตาสุกใสเป็นประกาย หนวดเคราสีขาวท่าทางใจดี ถึงแม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงตำนานที่เกิดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสก็ตาม แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่รวมเอาวิญญาณและความหมายของคริสต์มาสไว้อย่างมากมาย คือความปิติยินดีชื่นชม ความโอบอ้อมอารี ความรัก และความเป็นกันเอง

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ร๊าก Buddy ที่สุดเลย

ขอบคุง my buddy ที่หั้ยหนมหร่อยๆให้เราทู้กวันเลย ขอบคุงมากน้า รัก buddy จังเลย

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คำมีคม (จากพระมหาสมปอง)


วันนี้มีความสุขอยากแบ่งปันธรรมะดีๆให้กับเพื่อนๆลองอ่านกันดูน้า ดีมากๆเลย
1.ถ้าไม่มีใครยอมยื่นมือมาช่วยเหลือโยม จงอย่าลืมว่ายังเหลืออีกหนึ่ง ตรงปลายแขนโยมเอง ที่พร้อมช่วยเสมอ
2.ชีวิตเหมือนบันได ที่ยิ่งไต่สูงขึ้น ก็ยิ่งเห็นทิวทัศน์กว้างขึ้น
3.ชีวิตไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบ แต่เป็นเหตุการณ์ที่มีประสบการณ์
4.อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่ร่วมมิตรให้ระวังวาจา
5.ชื่อเสียงต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะสร้างขึ้นมาได้ แต่ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที ที่จะทำให้มันกลายเป็นชื่อเสียได้
6 คำถามที่โง่ที่สุด คือคำถามที่ไม่ได้ถาม
7.อินา ทานัง ทุกขังโลเก การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก
8.จะก้าวกระโดดได้ไกลขึ้น โยมต้องถอยหลังก่อน
9.เลื่อนตัวเอง แต่อย่าลดคนอื่นลง
10.ฆ่าเวลา เป็นการฆ่าตกรรมโอกาสดีๆ
11.ความสามารถทำให้โยมไปถึงจุดสุดยอด แต่ความอ่อนน้อมทำให้โยมอยู่จุดนั้นได้นานที่สุด
12. ครูเป็นผู้ที่เปิดประตู แต่นักเรียนต้องเดินเข้าไปเอง
13.ความสุขเกิดกับตัวเองได้ หากทำให้เกิดกับผู้อื่นก่อน

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552

i am happy


เย้เย้ ในที่สุดวันนี้ก้อมาถึง>>___<<< สอบเสร็จซะทีเครียดมาตั้งหลายวันแต่เราต้องถือคติว่า ลำบากก่อนสบาย ไม่รู้คะแนนจะเป็นอย่างไรบ้างแต่ก็ทำดีที่สุดแล้วนี่นา สู้ตาย++

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สะวีดัด ปราจีนบุรี

วันนี้สุขใจจังได้ไปทำบุญให้คุณปู่คุณย่าที่อำเภอศรีมโหสถด้วย เด็กๆที่วัดน่ารักมากๆเลย แต่ง่วงมากเพราะต้องเดินทางตั้งแต่เช้ามืดจนสว่าง แต่สุขใจมากๆเลยล่ะถึงจะได้ไปเยี่ยมปีละครั้งแต่ก้อยังดี ไว้ปีหน้าหนูจะไปเยี่ยมใหม่นะคะ..

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พรุ่งนี้วันพ่อ ..พ่อจ๋า หนูร๊ากพ่อ


เย้ เย้ เย้ การบ้านมาแล้วมันนี้ต้องรีบทำจะได้อ่านหนังสือเตรียมสอบ สู้ตายเพื่อนๆทุกคนดีใจจังวันนี้สอบนาฏศิลป์ผ่านแล้วตอนแรกยังรำไม่ได้เลยแต่ดั้นไปสอบซะคู่แรกแย่เลยเรา แต่ก็พยายามเต็มมที่พรุ่งนี้วันพ่อต้องเตรียมตัวเซอร์ไพร์ซแล้ว

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไดอารี่ online

ช่วงนี้การบ้านเยอะจัง ต้องรีบทำแล้ว

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

50 คำคมดีๆ รวมไว้ที่นี่แล้ว


1.คาดหวังให้สูงเข้าไว้และแน่นอนว่าต้องเตรียมใจที่จะพบกับความผิดหวังด้วย
2.ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
3.ถ้าเชื่อว่าไม่แพ้ เราก็จะไม่แพ้
4.คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้
5.อุปสรรคล้วนเป็นยาขม ไม่มีใครอยากลิ้มลอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาขม ส่วนใหญ่มักเป็นยาดีเสมอ
6.ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้ความสุขในคราวต่อมาเป็นความสุขที่แท้จริง
7.เพื่ออะไรกับการรอคอยที่ไม่มีความหมาย
8.ยิ่งบทเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเราผ่านมันไปได้เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น
9.กุหลาบไร้หนามมีเพียงมิตรภาพเท่านั้น
10.อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำ
11.แม้แต่นิ้วของคนเรายังยาวไม่เท่ากัน นับประสาอะไรกับความยั่งยืนของชีวิต
12.โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ
13.ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม
14.ไม่มีใครเข้มแข็งตลอดไปและไม่มีใครอ่อนแอตลอดกาล
15.บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป
16.อย่าเกลียดน้ำตาเพราะมันคือเพื่อนแท้ อย่าเกลียดความอ่อนแอเพียงเพราะมันไม่ใช่ความเข้มแข็ง
17.มีเพียงชีวิตที่ทำเพื่อคนอื่นเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีชีวิต
18.ทุกอย่างมีค่าเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าไม่ควรจะทำมันอีก
19.คนฉลาดย่อมไม่นำแต่ตาม ย่อมไม่พูดแต่ฟัง
20.ทุกคนได้ยินในสิ่งที่คุณพูด ต่เพื่อนที่ดีที่สุดจะได้ยินแม้ในสิ่งที่คุณไม่ได้พูด
21.อวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด
22.คนที่ว่าคนอื่นโง่ บุคคลนั้นโง่ยิ่งกว่า คนที่ว่าคนอื่นฉลาด บุคคลนั้นคือผู้ฉลาดอย่างแท้จริง
23.ฝันได้แต่อย่าหวัง
24.เรียนรู้ที่จะแพ้อย่างผู้ชนะ แล้วจะรู้จักกับคำว่าชัยชนะที่แท้จริง
25.นักปราชญ์ควรรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด
26.ความยึดถือคือความเจ็บปวด
27.พระเจ้าไม่ได้รักเรามากกว่าคนอื่น และไม่ได้รักคนอื่นมากกว่าเรา
28.อุปสรรคคือแบบทดสอบของชีวิต
29.ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต
30.สิ่งร้ายๆจะมาพร้อมกับสิ่งดีๆเสมอ
31.โลกใบนี้ยังมีมุมดีๆให้มอง
32.ตัวเรายังไม่ได้ดั่งใจเรา แล้วคนอื่นจะเป็นได้อย่างไร
33.ถนนบางสายไกลหน่อยแต่ก็ยังมีวันถึง
34.แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง แต่งใจด้วยความดี
35.ความเจ็บปวดทำให้หัวใจแข็งแกร่ง
36.เดินคนเดียวอาจไม่รู้สึกดีอะไร แต่อย่างน้อยก็มีที่แกว่งแขนมากขึ้น
37.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเดิม
38.ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เพราะทุกปัญหาแก้ไขได้
39.ถ้าไม่ลองก้าวจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองวิ่งได้
40.ตึกสูงระฟ้ามาจากก้อนอิฐ
41.ใช้ชีวิตอยู่กับความจริง ยอมรับสิ่งที่เป็น มองเห็นข้อดีคนอื่น หยัดยืนด้วยขาตัวเอง
42.เราจะรู้รสชาติของความสุขก็ต่อเมื่อเราผ่านความทุกข์มาก่อน
43.ปัญหามีไว้แก้ และต้องแก้ด้วยตัวเองไม่ใช่ยืมมือคนอื่นมาแก้
44.จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์คือความเชื่อใจ
45.ทุกคนมีคุณค่าเพียงแต่มีโอกาสแสดงคุณค่าไม่เท่ากัน
46.บางทีการได้เจอปัญหามันก็ดีเหมือนกัน
47.สิ่งที่ผ่านมาแล้วจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก
48.ไม่ว่าใครจะตายหรือหายไป สุดท้ายโลกก็ยังหมุนต่ออยู่ดี
49.น้ำตาให้ได้แค่ความเห็นใจ
50.ในการที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใดทุกครั้งควรคิดถึงจุดจบด้วย

Yeh >__< ได้หยุดแร้ว


โย้ว..สบายใจจัง แต่การบ้านก้อยางเยอะอยู่เลย ต้องฟิตและ

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ไม่ท้อ (*^_^*) ไม่ทุกข์ จ้า



ในช่วงเวลาที่เกิดความทุกข์.. ไม่สบายใจ..สับสน..วุ่นวาย..กับเรื่องราวต่าง ๆ กับปัญหาต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิต
เพียงมีใคร..คนหนึ่ง.. ที่ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา อดทนอีกสักนิด..แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น..
แต่ก็มีใครอีกหลาย ๆ คน พอประสบกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต.. ในรูปแบบแตกต่างกัน.. ก็มักคิดท้อแท้..กลายเป็นท้อถอยไป.. เพียงเพราะไม่มีความอดทน..



ความทุกข์.. มักกลัวคนที่ไม่ยอมแพ้..
ความทุกข์.. มักชอบฝังตัวอยู่กับคนอ่อนแอ..
คนที่ไม่ยอมแพ้ จะเรียนรู้ความทุกข์อย่างเข้าใจ เพราะคิดว่า.. ความทุกข์ คือ..เพื่อนสนิท.. ที่มาทดลอง..ฝึกให้จิตใจของเราเข้มแข็ง..

แต่สำหรับคนที่ท้อแท้.. เขาจะชอบเรียนรู้..ความสุข..ว่าเป็นอย่างไร มีลักษณะนิสัยอย่างไร.. พร้อมยินดีที่จะคบหากับความสุขตลอดเวลา..
หารู้ไม่ว่า.. ความสุข..ความสบาย.. คือ..ศัตรูของคนที่ท้อแท้.. เพราะจะให้ความสุขในเบื้องต้น.. แล้วจะให้ความทุกข์ในเบื้องปลาย..
เพราะฉะนั้น.. เราจงมาเรียนรู้วิธีที่จะอยู่กับความสุข-ความทุกข์ ในทุก ๆ เวลาที่เกิดความท้อแท้..กันดีกว่า..
เพื่อนสนิท.. ของคนที่ไม่ท้อแท้..คือ..ความทุกข์ ส่วนเพื่อนจอมปลอม.. ของคนที่ท้อแท้..คือ..ความสุข..
เพราะอะไร ??
เหตุผล..เพราะว่า.. เวลาที่เรามีความสุข.. เราก็มักจะเพลิดเพลิน..หลงใหล..ไปกับความสุข พอเจอความทุกข์..ก็รู้ไม่เท่าทัน..
แต่สำหรับคนที่ไม่ท้อแท้.. ไม่ว่าจะเจอความทุกข์ในรูปแบบใด เขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้..และอยู่กับมันได้อย่างเข้าใจ..
รู้สุข – รู้ทุกข์
แล้วปล่อยวาง..ไม่ยึดติดในสุข – ทุกข์
เรียนรู้และเข้าใจทั้งสุขและทุกข์
นั่นแหละ..
เราจึงจะเข้าใจถึงความรู้สึกที่ปราศจากสุขและทุกข์
คือ..วาง..ว่างเปล่า..นั่นเอง..

วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เทคนิคเพิ่มพื้นที่ความจำให้กับสมอง


วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับสมองมาฝากกันสำหรับคนชอบจำทู้กคนนะคะโดยการเพิ่มพื้นที่ความจำให้กับสมองของเราค่ะ..ลองนำไปใช้กันดูน้า
1. จิบน้ำบ่อย ๆ สมอง ประกอบด้วยน้ำ 85 % เซลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยวซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อยๆ ทำงานอยู่กับบ้าน
2. กินไขมันดี คน ไม่ค่อยรู้ว่าสมอง คือ ก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วย ปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที หลัง จากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ (ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ การ ตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่า นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรม เราให้ไปสู่เป้าหมายนั้นทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริง กับสิ่งที่คิดขึ้นทั้งสองอย่าง จึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ทุก ครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไป เรื่อยๆ
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน สิ่ง ใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงาน และเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีนซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ ไปเรื่อยๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8. เขียนบันทึก Graceful Journal ฝึก เขียนขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดีๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9. ฝึกหายใจลึกๆ สมอง ใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึกๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนานๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่สามารถหายใจเอา ออกซิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20%
ขอขอบคุณ : ที่มา ladinaclub เขียนโดย yayeenui

Go Go tooo โรงเรียน T^T


โหยย..วันนี้คงจาเปงวันสุดท้ายแล้วสินะ ที่จะได้หยุดอย่างเต็มที่55+ (ซะทีไหนกัน วันหยุดมีอีกตั้งหลายวันนิ) เย้ เย้ เปิดเทอม 2แล้วเทอมนี้จะต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด จะไม่เล่นเกมอย่างเดียวแร้ว โย้ว สู้ตาย

วันนี้ได้ดูมิรุโม่ด้วยหนุกมากค่ะ

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Diary Online (T ^ T)

พุ่งนี้จะได้รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาแล้วดีใจจังเลย และอาทิตย์หน้านี้จะได้หยุดอีกโอ้มีความฉุก

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552

i am tried


..เฮ้ย เหนื่อยจัง เปิดเทอมก็ดีนะได้เจอเพื่อนๆ เริ่มมีการบ้านเรื่อยๆแต่ก็ทะยอยทำแล้วล่ะการบ้านไม่ค่อยเยอะเลยสบายหน่อย อีกไม่กี่วันก็จาได้หยุดแล้วดีจายจัง เมื่อไหร่จาเรียนจบซะทีอ่า แต่ตั้งใจไว้แล้วล่ะว่าจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด..อ่าอยากดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอจังเลยพรุ่งนี้เข้าโรงแล้วด้วย

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับคนอยากเรียนวิศวฯ


วันนี้เรามีเรื่องดีๆสำหรับเพื่อนๆที่อยากเป็นวิศวฯมาฝากกันจ้า
หากพูดถึงคณะที่น้องๆ ผู้ชายหลายคนใฝ่ฝัน..วิศวกรรมศาสตร์ คงเป็นคณะในอันดับต้นๆ วันนี้ Life On Campus มีเคล็ดลับการเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์มาฝากให้ทุกคนได้เตรียมฝึกไว้ เคล็ดลับนี้ขอบอกว่าพิเศษสุดๆ เพราะออกจากปากอาจารย์ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการวิศวกรรมศาสตร์จากรั้ว มหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว ทั้งนี้ เราได้รับคำแนะนำดีๆ จากดร.ณัฐวัฒน์ จุฑารัตน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และอาจารย์ ชินเทพ เพ็ญชาติ หัวหน้าภาควิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผศ.ดร.ก่อเกียรติ บุญชูสกุล ประธานกรรมการบริหารหลักสูตรวิศวกรรมยานยนต์ ผศ.ดร.ศุภวุฒิ จันทรานุวัฒน์ อาจารย์ ประจำสาขาวิศวกรรมยานยนต์ จากรั้วจุฬาลงกรณ์ มาบอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมา และทำอย่างไรถึงจะได้เรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ เริ่มต้นที่การเตรียมตัวอย่างไรในการเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากคำแนะนำของดร.ณัฐวัฒน์ จุฑารัตน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถึงจุดเริ่มต้นของการเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์
“สิ่ง ที่สำคัญที่สุด สำหรับคนที่อยากเรียนวิศวฯ ต้องชอบคำนวณ อาจจะไม่ต้องเก่งมาก แต่ต้องไม่เกลียดเลข บางคนเห็นออกแบบดีไซน์ตึกสูงๆ แล้วเกิดความชอบขึ้นมาก็มาต้องเรียนวิศวฯโยธา หรือติดใจโรงงาน หุ่นยนต์ แมคคานิก ต้องเลือกเรียนเมคคาทรอนิกส์ ถ้าออกแบบเครื่องจักรกล สนใจรถยนต์ ก็ต้องเรียนวิศวฯยานยนต์ บางคนไม่ทราบว่าตัวเองชอบอะไร บางคนตามเพื่อน ตามคุณพ่อ คุณแม่ ไม่ถนัดจริงๆก็เรียนได้ไม่ดี ต้องหัดสังเกตตัวเอง และที่สำคัญถ้าอยากเรียนวิศวฯต้องเป็นคนคิดเป็นทำเป็น กระตือรือร้นอยู่ตลอด”

เปิดเทอมแล้ว..ฮุฮุ


วันนี้เปิดเทอมวันแรกสบายมากเลย(เพราะว่ายังไม่มีการบ้าน) แต่ถึงจะมีก็ไม่เป็นไรสู้ตายอยู่แล้ว อยากรู้เกรดจังเมื่อไหร่โรงเรียนจะประกาศซะทีตื่นเต้นๆเทอม 2นี้เฮาตั้งใจแล้วว่าจะตั้งใจเรียนและจะทำคะแนนให้ดีที่สุดเพื่อพ่อกับแม่จ้า

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Yeh <<<>>> Go to School

เย้ เย้ พรุ่งนี้ไปโรงเรียนแล้ว วันนี้จัดตารางสอนเรียบร้อยเตรียมพร้อมรับมือกับการบ้านแล้ว55+ เกรดจาเป็นอย่างไรบ้างน้า?? สาธุขอให้เกรดดีๆด้วยเถิด

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สิ่งที่ควรปฏิบัติสำหรับคนนอนดึก


ใครที่ชอบนอนดึก ๆ อาจจะทำให้เสียสุขภาพได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...
การพักผ่อนควรเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด และถ้ากินมื้อหนักในตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนแน่นอน เพราะไขมันเผาผลาญไม่หมดเลยทำให้เกิดการสะสมของไขมัน แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องทำงานหรือติดงานอะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้
1. งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยากลำไส้ต้องทำงานหนัก
2. ถ้าหากอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระการทำงานของลำไส้
3. ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้
4. เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้องกับฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า
5. มื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
6. ควรหลีกเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะจะเพิ่มภาระทำให้ระบบภายในร่างกาย ร่างกายต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้ อย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพกัน ด้วยการไม่นอนดึกมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี

ทะเลสวยมากเลย


วันนี้..สดชื่นจังเลยไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆมาสนุกมากเลยถึงกลับมาจา sunburn ปายหน่อยเล่น banana boat แล้วสุดยอดเลย อิ่มเลยกินน้ำไปหลายอึก แต่ก็ดีนะเป็นประสบการณ์ชีวิตแต่(จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย)55+

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Diary Online


ดีจัง ^ ^ วันนี้ๆได้กินก๋วยเตี๋ยวหร่อยมากๆเลย..ปิดเทอมก็ดีนะแต่คิดถึงเพื่อนๆอ่าเปิดเทอมดีกว่าถึงการบ้านมันจะเยอะปายหน่อยก็เหอะม่ายเป็นวันไรวันจันทร์นี้ก็เปิดเรียนแล้ว 555+

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552


เรื่องย่อ หนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

สภาพจราจรในปี 2552 ยังเป็นปัญหาหนักอกของคนกรุงเทพฯ ด้วยแม้จะมีถนน สะพาน ทางด่วนใหม่ๆผุดขึ้นหลายต่อหลายสาย ผิวจราจรเหล่านั้นก็ยังติดขัดและไม่เพียงพอต่อความต้องการ...ถนนในกทม.ก็เหมือนหนุ่มหล่อแสนดี ที่มีน้อยและไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ! เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นสาวอายุ 30 ที่มีพฤติกรรมป่วนประจำตัวอย่างหนึ่ง คือ การเมาในงานแต่งงานเพื่อน เพราะมันช่างตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตโสดสนิทไร้ชายใดมาแผ้วพานของลี่ วันหนึ่งหลังลากสังขารกลับจากการส่งเพื่อนสาวสุดซี้เข้าห้องหอ ลี่ขับรถเสยเข้ากับแผงโจ๊กในตลาดโต้รุ่ง ส่งผลให้รถเก๋งคันงามของเธอถูกป๊าผู้ต่อต้านแอลกอฮอลล์ทุกชนิดขายทิ้ง โทษฐานเมาแล้วขับ ชีวิตที่ไม่มีชายหนุ่มคอยไปรับไปส่งอย่างลี่ จึงต้องออกไปผจญการจราจรสุดโหดของเมืองบางกอกเพียงลำพัง แต่ละวันลี่ต้องปากกัดตีนถีบ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ โบกแท็กซี่ โหนรถเมล์ โดดลงเรือ ฯลฯ สารพันความเมื่อยล้าจากการเดินทางแบบเมก้าฮิตทำให้เวลานอนของลี่แปรปรวน คืนหนึ่งลี่ตื่นมากลางดึกและแอบขึ้นไปกินเบียร์บนดาดฟ้า โชคดีปนร้าย ลี่บังเอิญไปเจอลูกจ้างชายหญิงกำลังแสดง "หนังสด" กันอยู่ กลายเป็นคดีอื้อฉาวกลางดึกที่นำพาให้ลี่ได้พบกับ ลุง (เคน – ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) วิศวกร Maintenance แห่งรถไฟฟ้า BTS การได้พบกับผู้ชายชื่อแปลกคนนี้แบบไม่เมา ในคืนต่อมาทำให้ลี่เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในสามสิบฝน ในหัวลี่อัดแน่นด้วยคำถาม "ผู้ชายที่ทั้งขาว ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ไหงถึงมาซ่อนตัวทำงานรถไฟฟ้ากะดึกอยู่อย่างนี้" ลี่รู้สึกราวกับว่า ลุง คือ ขุมทรัพย์ที่เธอบังเอิญไปพบลายแทงเข้า หากเธอไม่ลงมือทำอะไร ไม่ทำในสิ่งที่ใจต้องการ เธออาจกลายเป็นหญิงโสดคนสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร ลี่ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเคยคิด แต่ไม่กล้าลงมือ นั่นคือ การจีบผู้ชายก่อน!!แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดจีบอย่างลี่ ไหนจะเวลาไม่ตรงกันจนเหมือนอยู่คนละโลกของเขากับเธอ ไหนจะถูก เพลิน (แพท - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวน้อยข้างบ้านหักหลัง แปรพักตร์จากครูไปเป็นคู่แข่งความรักแต่ไม่ว่าจะต้องผจญอุปสรรคไหน ๆ ลี่ก็ไม่คิดถอดใจ ตั๋วรักรถไฟ(ฟ้า) เที่ยวสุดท้ายใบนี้ ลี่สาบานว่าจะไม่ยอมให้หลุดมือเด็ดขาด! ติดตามเรื่องราวความรักวุ่นๆ ของพวกเขาได้ ใน หนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ 15 ตุลาคม ศกนี้

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

Diary online


...สุโค้ย (*^-^*) วันนี้ไปเที่ยวเขาดินมาด้วยล่ะสนุกมากเลย..ได้จับสกังค์ด้วยน่ารักดีนะแต่เหม็นชะมัดเยย.55+ เพื่อนๆสนุกกันมากๆเลยล่ะ..โหยยวันจันทร์ต้องสอบอีกล่ะเซ็งจังชีวิตนี้มีแต่การสอบ(T-T)

สัญลักษณ์ตกแต่งชื่อ msn, Smiley, Emoticon

(^_^) ยิ้มธรรมดา

(^ ^) อมยิ้ม

(*^ _^*) ยิ้มแบบมีประกาย

(^0^) / ยกมือขึ้นแล้วร้อง “ว้าว”

(>_ > > > p(^ ^)q ขอให้โชคดีนะ

(T_T) ร้องให้น้ำตาไหลพรากๆ

(-_-)ZZZ ราตรีสวัสดิ์

(._.?) ผมไม่เข้าใจจริงๆ ครับ

(^_^)V สู้ตายค่ะ (ชนะแล้ว)

(P_-) ส่องแว่นขยายดูสิ ปิดบังอะไร

(^^)// เก่งจัง ปรบมือให้หน่อย

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

Diary online ^O^

วานนี้สบายทีฉุดเร้ย....เย้ๆๆๆ สอบเสดแร้ว พุ่งนี้ปายเที่ยว

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

Oh - Cutie



Cool Web For Fashionista T T
เว็บช๊อปปิ้งของสาวๆ เกาหลี สีหวานๆ ดูเป็นตัวอย่างในการแต่งตัวได้

http://www.cherrykoko.com/
กระต่ายสาว แฟชั่นนิสต้าhttp://www.yenta4.com/external.php?url=http%3A%2F%2Fwww.fifi-lapin.blogspot.com%2F

Diary online


โอ้..วันนีรู้สึกดีชะมัดเลยๆม่เคยคิดว่าเพื่อนๆจาน่าร้ากขนาดนี้มาก่องดีจายยจัง..ม่ายไหวๆวันนี้ไม่สบายปวดหัวมากมาย เตรียมใจอาทิตย์หน้าสอบ..สู้สู้สู้ ตาย

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

Diary online

วันนี้เข้าค่าย...โหยย
วันนี้ต้องนอนค้างที่โรงเรียนด้วย...ดีจังได้นอนกะเพิ่ลๆแต่นอนม่ายหลับอ่า...เซ็งจิตมากพอนั่งทามสมาธิก้อเริ่มทันที(ซึ้งในรสพระธรรม)โหงกไปทุกทิศทาง
แต่ของว่างอาหร่อยดีจัง

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานภาษาอังกฤษ


You mean everythings to me
In my life i have the important person , who is stay and encourage me when me sad and dissapointed
She is my angle....she can doing everything for me althought she will tired ...she is my mom ,who is I love so much and much ...on Mother day I hope my mom is happy healthy and stay beside me forever ..sometime I may made a mistake but I want you to know that I am sadly . Finally I never talked to you that how about I love you...but now i tell you ...you mean everything to me ...I will love and take care you forever

วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ปายตักบาตรมาด้วยโฮะโฮะ TOT

ดีจายจังเร้ย..วันนี้ตื่นมาตอนเช้าอากาศดีมั่กๆแถมวันนี้ยางได้ตักบาตรกับเพื่อนๆด้วยมีฟามสุก
แต่วันจันทร์ก้อจามีสอบอีกและ..เซ็งเร้ย..แต่ก้อไม่เปงไรนิอ่านหนังฉือไปเด๋วก้อคงจาทามได้นะ

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หนีตามกาลิเลโอ





เรื่องย่อหนัง Dear Galileo *-*
หนีตามกาลิเลโอเมื่อสองวัยรุ่นสาวไทยขี้หนาว จับมือกันหนีเมืองไทยไปย่ำโลกเล่น คนหนึ่งหนีเรียน คนหนึ่งหนีรัก แผนคือ เสิร์ฟไป เที่ยวไป - ลอนดอน ปารีส เวนิส ทริปสุดขั้วเริ่มต้นขึ้น บนคำสัญญาว่า จะไม่ทิ้งกัน หนีตามกาลิเลโอ ภาพยนตร์ว่าด้วยสามความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นสาวไทย – กฎของโลก – กาลิเลโอปลายศตวรรษที่ 16 เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลีกาลิเอโอ กาลิเลอิ นักคิด / นักวิทยาศาสตร์ / นักดาราศาสตร์หนุ่มไฟแรงแห่งยุคสมัย ทำการทดลองเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก ด้วยการโยนลูกบอลไม้จากยอดหอเอนปิซ่าต่อหน้าสาธารณะ ผลการทดลองครั้งนั้น กาลิเลโอได้ข้อสรุปว่า วัตถุ 2 ชิ้น ที่มีรูปทรงเดียวกัน และประกอบขึ้นด้วยมวลสารเดียวกัน จะตกถึงพื้นพร้อมกัน แม้ว่าจะมีน้ำหนักไม่เท่ากันก็ตามข้อสรุปของกาลิเลโอขัดแย้งกับแนวคิดของศาสนจักร ส่งผลให้กาลิเลโอถูกหมายหัวว่าเป็นพวก ‘จอมขบถ’ ที่ต้องจับตาเฝ้าระวังใกล้ชิดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหลายปีต่อมา กาลิเลโอ ‘งานเข้า’ อีกครั้ง เพราะดันไปประกาศตัวสนับสนุนแนวคิด “โลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล” เป็นอีกครั้งที่ข้อสรุปของกาลิเลโอขัดแย้งกับสิ่งที่ศาสนจักรปรารถนาจะให้ใครๆ เชื่อและครั้งนี้ ศาสนจักรก็เห็นควรต้องจัดการหมอนี่ขั้นเด็ดขาด กาลิเลโอถูกจับขัง สิ้นสูญอิสรภาพ และชีวิตก็ตกระกำลำบาก หาความสะดวกสบายไม่ได้นับจากนั้น



วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สาระดีๆ




ความลับของเหรียญ
ในค่ำคืนนึง... ของเด็กหญิง 9 ขวบ หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้วคุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบแล้วบอกลูกว่า พ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมากว่าแล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้พ่อถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้าถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที ลูกทำตาม... คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์...ก็ลูกอยากทราบนี่คะว่าเป็นอะไร เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือเหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เองคุณพ่อหัวเราะ ! ! ! แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ยถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที ลูกว่าหนูรู้แล้ว ไม่อยากดูค่ะ คุณพ่อว่า เอ้า... เขกพื้น 1 ทีก็ได้ ลูกก็บอก ว่าทราบแล้ว ไม่อยากดูอีกแล้วเบื่อคุณพ่อเลยพูดขึ้นว่าให้ดูฟรี ๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็เพียงแต่ชำเลืองดูโดยไม่สนใจใยดีใดใด คุณพ่อเลยพูดว่า " นี่ละลูก อะไรที่เป็นความลับ คนมักยอมทำทุกอย่างที่จะได้สมปรารถนา แต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลยแล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับลูกผู้หญิง เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไรไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรี........."